Quick Links: Thailand Law Seminars and Conference | Thai Law Forum Past Issues | About Thailand Law Forum | Advertising Guidelines | Publishing Guidelines

Feature Articles :

History of Cannabis
  and Anti-Marijuana
  Laws in Thailand



Thailand’s Notable
  Criminal Extradition
  Cases


Guide for Tourists
  to Laws in Thailand



Neither Free nor Fair:
  Burma’s Sham Elections



Sex Laws in Thailand:
  Part 1



Renewable Energy
  in Thailand



Transsexuals and
  Thai Law



Foreign Mafia in
  Thailand

Submissions:

This article has been submitted by Chaninat & Leeds, a full service law firm in Thailand, specializing in foreign company registration, divorce litigation and US immigration, including the US visa waiver process for Thais.




Thailand Lawyer Blog:
 Thai Government to
  Review Post-2006
  Prosecutions
 Courts Order Thai
  Military to Cease
  Labeling Transsexuals
  as Mentally Ill
 Work Permit Law
  Changes in Thailand
 Bahamian Supreme Court
  Ruling Backs
  Prenuptial Agreement
 The US FATCA:
  “The Neutron Bomb
  the Global Financial
  System”?
 The Effects of the US
  Government’s Policies
  on Americans Living
  Abroad
 Chinese Assimilation
  in Thailand vs. Malaysia
 Illegal Wildlife
  Trafficking in Asia:
  Thailand as a Hub?
 Rabbi Enforcing
  Jewish Divorce Order
  Arrested by FBI
 U.S. Prenuptial
  Agreements in Thailand:
  Why Thai Law is
  Important
 US Immigration in
  Decline?
 Abortion and Family
  Planning Law in
  the Philippines
 U.S. Courts and the
  Application of Foreign
  Law to International
  Prenuptial Agreements
 Thailand Blasted by 2011
  Human Trafficking Report
 US Expats on Alert:
  New US Tax Law
  Extends IRS’s Reach
  Internationally
 Hangover 2 and
  the Thai Censors
 Thailand’s Film
  Industry Steps Up
 

ข้อ 30
ลักษณะอันเป็นความลับของคำขอระหว่างประเทศ

(1) (เอ) ภายใต้บังคับของบทบัญญัติในอนุวรรค (บี) ห้ามมิให้สำนักระหว่างประเทศและองค์กรตรวจค้นระหว่างประเทศอนุญาตให้บุคคลหรือองค์กรใดเข้าถึงคำขอระหว่างประเทศก่อนมีการประกาศโฆษณาระหว่างประเทศของคำขอนั้น เว้นแต่ผู้ยื่นคำขอร้องขอหรืออนุญาตให้ทำได้
(บี) ห้ามมิให้นำบทบัญญัติในอนุวรรค (เอ) มาใช้บังคับกับการจัดส่งไปยังองค์กรตรวจค้นระหว่างประเทศที่มีอำนาจหน้าที่ การจัดส่งตามที่บัญญัติในข้อ 13 และการสื่อสารตามที่บัญญัติในข้อ 20
(2) (เอ) ห้ามมิให้สำนักงานในประเทศยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้าถึงคำขอระหว่างประเทศก่อนถึงวันที่กำหนดดังต่อไปนี้ แล้วแต่ว่าวันใดจะเกิดขึ้นก่อน เว้นแต่ผู้ยื่นคำขอร้องขอหรืออนุญาตให้ทำได้
(i) วันประกาศโฆษณาระหว่างประเทศของคำขอระหว่างประเทศ
(ii) วันที่ได้รับการสื่อสารเกี่ยวกับคำขอระหว่างประเทศตามข้อ 20
(iii) วันที่ได้รับสำเนาคำขอระหว่างประเทศตามข้อ 22
(บี) บทบัญญัติในอนุวรรค (เอ) จะต้องไม่ขัดขวางสำนักงานในประเทศใดๆ ที่จะแจ้งให้บุคคลภายนอกทราบว่าสำนักงานนั้นได้รับการมอบหมาย หรือที่จะประกาศโฆษณาข้อเท็จจริงเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลหรือการประกาศโฆษณาดังกล่าวอาจมีแต่เพียงข้อมูลดังต่อไปนี้ก็ได้กล่าวคือ การบ่งชี้สำนักงานรับคำขอ ชื่อผู้ยื่นคำขอ วันยื่นคำขอระหว่างประเทศหมายเลขคำขอระหว่างประเทศ และชื่อการประดิษฐ์
(ซี) บทบัญญัติในอนุวรรค (เอ) จะต้องไม่ขัดขวางสำนักงานที่ได้รับมอบหมายใดๆ ในการอนุญาตให้มีการเข้าถึงคำขอระหว่างประเทศเพื่อประโยชน์ขององค์กรในกระบวนการ
ยุติธรรม
(3) บทบัญญัติในวรรค (2) (เอ) ให้ใช้บังคับกับสำนักงานรับคำขอใดๆ เว้นแต่จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดส่งตามที่บัญญัติในข้อ 12 (1)
(4) เพื่อประโยชน์แห่งข้อนี้ คำว่า “การเข้าถึง” หมายความรวมถึงวิธีการใดๆ ที่บุคคลภายนอกได้รับรู้ ซึ่งรวมถึงการสื่อสารเฉพาะรายและการประกาศโฆษณาเป็นการทั่วไป แต่
ทั้งนี้ ห้ามมิให้สำนักงานในประเทศใดๆ ประกาศโฆษณาคำขอระหว่างประเทศหรือคำแปลของคำขอระหว่างประเทศเป็นการทั่วไป ก่อนการประกาศโฆษณาระหว่างประเทศ หรือก่อนหน้าวันสิ้นสุดระยะเวลา 20 เดือนนับแต่วันยื่นคำขอครั้งแรก ถ้าไม่มีการประกาศโฆษณาระหว่างประเทศก่อนวันสิ้นสุดระยะเวลา 20 เดือนนับแต่วันยื่นคำขอครั้งแรก

หมวด 2
การตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ

ข้อ 31
การแสดงความจำนงให้ตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ

(1) ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอแสดงความจำนง ให้ตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศแก่คำขอระหว่างประเทศของผู้ยื่นคำขอตามที่กำหนดในบทบัญญัติดังต่อไปนี้และข้อบังคับ
(2) (เอ) ผู้ยื่นคำขอซึ่งมีภูมิลำเนาหรือมีสัญชาติตามที่กำหนดในข้อบังคับของรัฐภาคีที่ผูกพันตามความในหมวด 2 ซึ่งได้ยื่นคำขอระหว่างประเทศที่สำนักงานรับคำขอของรัฐนั้นหรือที่กระทำการแทนรัฐนั้น อาจแสดงความจำนงให้ตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศก็ได้
(บี) สมัชชาอาจอนุญาตให้บุคคลผู้มีสิทธิยื่นคำขอระหว่างประเทศแสดงความจำนงให้ตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศได้ แม้ว่าบุคคลนั้นจะเป็นผู้มีภูมิลำเนาหรือสัญชาติของประเทศที่มใช่รัฐภาคีแห่งสนธิสัญญาฉบับนี้ หรือมิใช่รัฐที่ผูกพันตามความในหมวด 2
(3) การแสดงความจำนงให้ตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศนั้น ให้จัดทำโดยแยกต่างหากจากคำขอระหว่างประเทศ คำร้องต้องมีรายละเอียดและใช้ภาษาและรูปแบบตามที่กำหนด
(4) (เอ) การแสดงความจำนงจะต้องระบุชื่อรัฐภาคีต่างๆ ที่ผู้ยื่นคำขอประสงค์จะใช้ผลของการตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศในรัฐนั้น (“รัฐที่ถูกเลือก”) การเลือกรัฐภาคีเพิ่มเติมอาจทำได้ในภายหลัง การเลือกอาจเลือกได้เฉพาะรัฐภาคีที่ถูกมอบหมายแล้วตามข้อ 4 เท่านั้น (บี) ผู้ยื่นคำขอที่กล่าวถึงในวรรค (2) (เอ) อาจเลือกรัฐภาคีใดที่ผูกพันตามความในหมวด 2 ก็ได้ แต่ผู้ยื่นคำขอที่กล่าวถึงในวรรค (2) (บี) อาจเลือกได้เฉพาะรัฐภาคีที่ผูกพันตามความในหมวด 2 ที่ประกาศว่ารัฐนั้นพร้อมที่จะถูกเลือกโดยผู้ยื่นคำขอเหล่านั้นแล้วเท่านั้น
(5) การแสดงความจำนงจะต้องชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด ภายในกรอบเวลาที่กำหนด
(6) (เอ) การแสดงความจำนงให้ยื่นต่อองค์กรตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศที่มีอำนาจหน้าที่ซึ่งกล่าวถึงในข้อ 32 (บี) การเลือกในภายหลังให้ยื่นต่อสำนักระหว่างประเทศ
(7) สำนักงานที่ถูกเลือกแต่ละแห่งต้องได้รับแจ้งการเลือกนั้น

ข้อ 32
องค์กรตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ

(1) การตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ ให้ดำเนินการโดยองค์กรตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ
(2) ในกรณีของการแสดงความจำนงที่กล่าวถึงในข้อ 31 (2) (เอ) ให้สำนักงานรับคำขอและในกรณีของคำร้องที่กล่าวถึงในข้อ 31 (2) (บี) ให้สมัชชา ระบุชื่อองค์กรตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศแห่งหนึ่งหรือหลายแห่งที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศตามข้อตกลงที่ใช้บังคับระหว่างองค์กรตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศและสำนักระหว่างประเทศ
(3) ให้นำบทบัญญัติข้อ 16 (3) มาใช้บังคับกับองค์กรตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศโดยอนุโลม

ข้อ 33
การตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ

(1) วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ คือ เพื่อจัดทำความเห็นเบื้องต้นโดยไม่มีผลผูกมัดต่อปัญหาที่ว่า การประดิษฐ์ที่ขอถือสิทธินั้นเป็นการประดิษฐ์ใหม่ มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น (ไม่เป็นที่ประจักษ์โดยง่าย) และสามารถประยุกต์ใช้ในทางอุตสาหกรรมได้หรือไม่
(2) เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ ให้ถือว่าการประดิษฐ์ที่ขอถือสิทธิเป็นการประดิษฐ์ใหม่ ถ้าการประดิษฐ์นั้นไม่เป็นงานที่ปรากฏอยู่แล้วตามที่กำหนดในข้อบังคับ
(3) เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ ให้ถือว่าการประดิษฐ์ที่ขอถือสิทธิมีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น ถ้าพิจารณาจากงานที่ปรากฏอยู่แล้วตามที่กำหนดในข้อบังคับการประดิษฐ์ดังกล่าวไม่เป็นที่ประจักษ์โดยง่ายต่อบุคคลผู้มีความชำนาญในสาขานั้น ณ วันที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนด
(4) เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ ให้ถือว่าการประดิษฐ์ที่ขอถือสิทธิสามารถประยุกต์ใช้ได้ในทางอุตสาหกรรม ถ้าหากตามลักษณะของการประดิษฐ์นั้น สามารถทำหรือใช้ (ในด้านเทคโนโลยี) ในอุตสาหกรรมไม่ว่าประเภทใด คำว่า “อุตสาหกรรม” ให้เป็นที่เข้าใจในความหมายกว้างที่สุด ดังเช่นที่ใช้ในอนุสัญญากรุงปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม
(5) หลักเกณฑ์ที่อธิบายข้างต้นมีไว้เพื่อประโยชน์ในตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศเท่านั้น รัฐภาคีใดๆ อาจบังคับใช้หลักเกณฑ์ที่เพิ่มเติมหรือแตกต่างไปจากนี้เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยว่า การประดิษฐ์ที่ขอถือสิทธินั้นขอรับสิทธิบัตรในรัฐนั้นได้หรือไม่
(6) การตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ ให้พิจารณาเอกสารทั้งหมดที่อ้างอิงในรายงานการตรวจค้นระหว่างประเทศ และอาจพิจารณาเอกสารเพิ่มเติมที่เห็นว่าเกี่ยวข้องกับกรณีนั้นๆ ด้วยก็ได้

 


Next Page
[1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]

 
 

© Copyright Thailand Law Forum, All Rights Reserved
(except where the work is the individual works of the authors as noted)