Quick Links: Thailand Law Seminars and Conference | Thai Law Forum Past Issues | About Thailand Law Forum | Advertising Guidelines | Publishing Guidelines

Feature Articles :

History of Cannabis
  and Anti-Marijuana
  Laws in Thailand



Thailand’s Notable
  Criminal Extradition
  Cases


Guide for Tourists
  to Laws in Thailand



Neither Free nor Fair:
  Burma’s Sham Elections



Sex Laws in Thailand:
  Part 1



Renewable Energy
  in Thailand



Transsexuals and
  Thai Law



Foreign Mafia in
  Thailand

Thailand Lawyer Blog:
 Thai Government to
  Review Post-2006
  Prosecutions
 Courts Order Thai
  Military to Cease
  Labeling Transsexuals
  as Mentally Ill
 Work Permit Law
  Changes in Thailand
 Bahamian Supreme Court
  Ruling Backs
  Prenuptial Agreement
 The US FATCA:
  “The Neutron Bomb
  the Global Financial
  System”?
 The Effects of the US
  Government’s Policies
  on Americans Living
  Abroad
 Chinese Assimilation
  in Thailand vs. Malaysia
 Illegal Wildlife
  Trafficking in Asia:
  Thailand as a Hub?
 Rabbi Enforcing
  Jewish Divorce Order
  Arrested by FBI
 U.S. Prenuptial
  Agreements in Thailand:
  Why Thai Law is
  Important
 US Immigration in
  Decline?
 Abortion and Family
  Planning Law in
  the Philippines
 U.S. Courts and the
  Application of Foreign
  Law to International
  Prenuptial Agreements
 Thailand Blasted by 2011
  Human Trafficking Report
 US Expats on Alert:
  New US Tax Law
  Extends IRS’s Reach
  Internationally
 Hangover 2 and
  the Thai Censors
 Thailand’s Film
  Industry Steps Up

Submissions :

Thailand Law Forum would like to thank Chaninat & Leeds for their assistance. A law firm with both Thai and American lawyers, they provide a range of legal assistance, from business to family law, including adoption in Thailand.



 

หมวด 5
บทบัญญัติทางด้านบริหาร

ข้อ 53
สมัชชา

(1) (เอ) ภายใต้บังคับของข้อ 57 (8) ให้สมัชชาประกอบด้วยบรรดารัฐภาคีทั้งปวง
(บี) ให้รัฐบาลของแต่ละรัฐภาคีมีผู้แทนได้หนึ่งคน ซึ่งอาจมีผู้แทนสำรอง ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ช่วยก็ได้
(2) (เอ) ให้สมัชชา
(i) ดำเนินการทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการธำรงไว้ และการพัฒนาสหภาพ และการปฏิบัติการให้เป็นไปตามสนธิสัญญาฉบับนี้
(ii) ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายเป็นการเฉพาะตามบทบัญญัติอื่นๆ ของสนธิสัญญาฉบับนี้
(iii) ให้แนวทางแก่สำนักระหว่างประเทศในการจัดเตรียมการประชุมต่างๆ เพื่อพิจารณาปรับปรุงสนธิสัญญา
(iv) พิจารณาทบทวนและให้ความเห็นชอบรายงานและกิจกรรมต่างๆ ของผู้อำนวยการใหญ่เกี่ยวกับสหภาพและออกคำสั่งที่จำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ภายในอำนาจของสหภาพ
(v) พิจารณาทบทวนและให้ความเห็นชอบรายงานและกิจกรรมต่างๆ ของคณะกรรมการบริหารที่จัดตั้งขึ้นตามวรรค (9) และออกคำสั่งแก่คณะกรรมการนั้น
(vi) พิจารณากำหนดโครงการและให้ลงมติยอมรับงบประมาณของสหภาพที่มีขึ้นทุกสามปีและให้ความเห็นชอบบัญชีครั้งล่าสุดของสหภาพ
(vii) ลงมติยอมรับข้อบังคับทางการเงินของสหภาพ
(viii) จัดตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานตามที่เห็นสมควรเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสหภาพ
(ix) พิจารณาว่าจะอนุญาตให้รัฐอื่นใดที่ไม่ได้เป็นรัฐภาคี องค์การระดับระหว่างประเทศและองค์การเอกชนระหว่างประเทศภายใต้บังคับบทบัญญัติวรรค (8) เข้าร่วมการประชุมของสมัชชาในฐานะผู้สังเกตการณ์
(x) กระทำการอื่นใดที่เห็นสมควร เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสหภาพและปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ที่เห็นสมควรตามสนธิสัญญานี้
(บี) ในเรื่องที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับสหภาพอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลองค์การ ให้สมัชชามีคำวินิจฉัยหลังจากที่ได้รับฟังคำแนะนำจากคณะกรรมการประสานงานขององค์การแล้ว
(3) ผู้แทนคนหนึ่งอาจเป็นผู้แทนและลงคะแนนเสียงในนามของรัฐหนึ่งเท่านั้น
(4) ให้รัฐภาคีแต่ละรัฐมีสิทธิออกเสียงได้หนึ่งเสียง
(5) (เอ) ในการประชุมต้องมีรัฐภาคีมาประชุมจำนวนกึ่งหนึ่งจึงจะครบองค์ประชุม
(บี) ในกรณีที่ไม่ครบองค์ประชุม สมัชชาอาจทำคำวินิจฉัยได้ แต่คำวินิจฉัยเหล่านั้นจะมีผลบังคับต่อเมื่อมีการลงคะแนนเสียงผ่านทางจดหมายโต้ตอบตามที่กำหนดในข้อบังคับ และมีจำนวนการลงคะแนนครบองค์ประชุมและได้เสียงข้างมากตามที่กำหนดในข้อบังคับเว้นแต่ที่เป็นคำวินิจฉัยเกี่ยวกับระเบียบวิธีพิจารณาของสมัชชาเอง
(6) (เอ) ภายใต้บังคับบทบัญญัติข้อ 47 (2) (บี) ข้อ 58 (2) (บี) ข้อ 58 (3) และข้อ 61 (2) (บี) คำวินิจฉัยของสมัชชาต้องได้คะแนนเสียงจำนวนสองในสามของจำนวนที่ออกเสียงทั้งหมด
(บี) การงดออกเสียงมิให้นับเป็นคะแนนเสียง
(7) ในเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของรัฐภาคีที่ผูกพันตามหมวด 2 โดยเฉพาะ การกล่าวถึงรัฐภาคีในวรรค (4) วรรค (5) และวรรค (6) ให้ถือว่าใช้บังคับกับรัฐที่ผูกพันตามหมวด 2 เท่านั้น
(8) ให้องค์การระดับระหว่างประเทศใดที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นองค์กรตรวจค้นระหว่างประเทศหรือองค์กรตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้สังเกตการณ์ของสมัชชา
(9) เมื่อจำนวนรัฐภาคีมีมากกว่า 40 ประเทศแล้ว ให้สมัชชาจัดตั้งคณะกรรมการ บริหารขึ้นการกล่าวถึงคณะกรรมการบริหารในสนธิสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับ ให้ถือว่าเป็นการกล่าวถึง คณะกรรมการนั้นทันทีที่ได้มีการจัดตั้งขึ้นแล้ว
(10) จนกว่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร ให้สมัชชาให้ความเห็นชอบโครงการและงบประมาณประจำปีที่ผู้อำนวยการใหญ่จัดทำขึ้น ภายในขอบเขตของโครงการและงบประมาณที่ทำขึ้นทุกสามปี
(11) (เอ) ให้สมัชชามีการประชุมสมัยสามัญทุกๆ สองปีปฏิทินโดยมีผู้อำนวยการใหญ่เป็นผู้เรียกประชุม และหากไม่มีสถานการณ์พิเศษอื่นใด ให้จัดประชุมตามกำหนดเวลาและสถานที่เดียวกันกับการประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์การ
(บี) ให้สมัชชามีการประชุมสมัยวิสามัญเมื่อผู้อำนวยการใหญ่เรียกประชุมตามที่คณะกรรมการบริหารร้องขอ หรือตามที่รัฐภาคีจำนวนหนึ่งในสี่ร้องขอ
(12) ให้สมัชชาลงมติยอมรับระเบียบการดำเนินงานของสมัชชาเอง

ข้อ 54
คณะกรรมการบริหาร

(1) เมื่อสมัชชาได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารขึ้นแล้ว ให้คณะกรรมการดังกล่าวอยู่ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติต่อไปนี้
(2) (เอ) ภายใต้บังคับแห่งข้อ 57 (8) ให้คณะกรรมการบริหารประกอบด้วยรัฐที่สมัชชาเลือกจากรัฐต่างๆ ที่เป็นสมาชิกของสมัชชา
(บี) ให้รัฐบาลของแต่ละรัฐสมาชิกของคณะกรรมการบริหารมีผู้แทนหนึ่งคน ซึ่งอาจมีผู้แทนสำรอง ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญหลายคนเป็นผู้ช่วยก็ได้
(3) ให้จำนวนรัฐสมาชิกของคณะกรรมการบริหารเท่ากับหนึ่งในสี่ของจำนวนรัฐสมาชิกของสมัชชา ในการจัดจำนวนสมาชิก ให้นำจำนวนสมาชิกทั้งหมดมาหารด้วยสี่แล้วเหลือเศษเท่าไรให้ตัดทิ้งไป
(4) ในการเลือกสมาชิกของคณะกรรมการบริหาร ให้สมัชชาคำนึงถึงการกระจายตัวทางภูมิศาสตร์อย่างเท่าเทียมกัน
(5) (เอ) ให้สมาชิกของคณะกรรมการบริหารแต่ละประเทศมีวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปิดสมัยประชุมของสมัชชาที่ได้มีการเลือกสมาชิกคณะกรรมการบริหารคณะนั้นไปจนถึงปิดสมัย ประชุมสามัญของสมัชชาครั้งถัดไป
(บี) สมาชิกของคณะกรรมการบริหารอาจได้รับเลือกอีกได้ แต่ให้มีจำนวนสูงสุดได้ไม่เกินสองในสามของจำนวนสมาชิกดังกล่าวเท่านั้น
(ซี) ให้สมัชชากำหนดรายละเอียดของระเบียบที่ใช้กับการเลือกและการที่อาจได้รับเลือกอีกครั้งของสมาชิกคณะกรรมการบริหาร
(6) (เอ) ให้คณะกรรมการบริหาร
(i) จัดทำร่างวาระการประชุมของสมัชชา
(ii) จัดทำข้อเสนอแนะต่อสมัชชาในเรื่องร่างโครงการและงบประมาณรายสองปีของสหภาพที่ผู้อำนวยการใหญ่จัดทำขึ้น
(iii) (ยกเลิก)
(iv) เสนอรายงานที่ผู้อำนวยการใหญ่จัดทำขึ้นเป็นระยะๆ และรายงานการสอบบัญชีประจำปีต่อสมัชชา พร้อมความเห็นตามสมควร
(v) ดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อให้การดำเนินการของผู้อำนวยการใหญ่ตามโครงการของสหภาพเป็นไปด้วยดีตามคำวินิจฉัยของสมัชชาและโดยคำนึงถึงสถานการณ์ที่
เกิดขึ้นในระหว่างสองสมัยประชุมสามัญของสมัชชา
(vi) ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายตามสนธิสัญญาฉบับนี้
(บี) ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของสหภาพอื่นๆ ที่กำกับดูแลโดยองค์การ ให้คณะกรรมการบริหารมีคำวินิจฉัยหลังจากที่ได้หารือคณะกรรมการประสานงานขององค์การแล้ว
(7) (เอ) ให้คณะกรรมการบริหารมีการประชุมสมัยสามัญปีละครั้ง โดยมีผู้อำนวยการใหญ่เป็นผู้เรียกประชุม และควรจะจัดประชุมในระยะเวลาและสถานที่เดียวกันกับคณะกรรมการประสานงานขององค์การ
(บี) ให้คณะกรรมการบริหารมีการประชุมสมัยวิสามัญโดยมีผู้อำนวยการใหญ่เป็นผู้เรียกประชุม โดยการริเริ่มของผู้อำนวยการใหญ่เอง หรือเมื่อประธานหรือสมาชิกจำนวนหนึ่งในสี่ของคณะกรรมการร้องขอก็ได้
(8) (เอ) ให้รัฐสมาชิกของคณะกรรมการบริหารมีสิทธิออกเสียงได้หนึ่งเสียง
(บี) ในการประชุมคณะกรรมการบริหารต้องมีสมาชิกจำนวนกึ่งหนึ่งมาประชุมจึงจะครบองค์ประชุม
(ซี) คำวินิจฉัยจะต้องได้รับเสียงข้างมากของจำนวนผู้ที่ลงคะแนน
(ดี) การงดออกเสียงมิให้นับเป็นคะแนนเสียง
(อี) ผู้แทนคนหนึ่ง อาจเป็นผู้แทนและออกเสียงในนามของรัฐเดียวเท่านั้น
(9) รัฐภาคีที่มิใช่สมาชิกของคณะกรรมการบริหาร จะต้องได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ได้ เช่นเดียวกับองค์การระดับระหว่างประเทศที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นองค์กรตรวจค้นระหว่างประเทศหรือองค์กรตรวจสอบเบื้องต้นระหว่างประเทศ
(10) ให้คณะกรรมการบริหารลงมติยอมรับระเบียบดำเนินงานของคณะกรรมการเอง


Next Page
[1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]

 
 

© Copyright Thailand Law Forum, All Rights Reserved
(except where the work is the individual works of the authors as noted)