ข้อ 26
โอกาสในการแก้ไขให้ถูกต้องที่สำนักงานที่ได้รับมอบหมาย
ห้ามมิให้สำนักงานที่ได้รับมอบหมายปฏิเสธไม่รับคำขอระหว่างประเทศด้วยเหตุผลว่าไม่เป็นไปตามข้อกำหนดแห่งสนธิสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับ โดยมิได้เปิดโอกาสให้ผู้ยื่นคำขอได้แก้ไขคำขอดังกล่าวให้ถูกต้องก่อน ตามกระบวนการที่บัญญัติในกฎหมายภายในสำหรับ
สถานการณ์ที่เหมือนกันหรือเทียบเคียงกันได้ที่เกี่ยวข้องกับคำขอในประเทศ
ข้อ 27
ข้อกำหนดในประเทศ
(1) ห้ามมิให้กฎหมายภายในประเทศมีบทบัญญัติให้ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในเรื่องรูปแบบหรือเนื้อหาของคำขอระหว่างประเทศที่แตกต่างหรือเพิ่มเติมจากที่บัญญัติไว้ในสนธิสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับ
(2) บทบัญญัติในวรรค (1) จะไม่มีผลกระทบต่อการบังคับใช้บทบัญญัติในข้อ 7 (2)
หรือขัดขวางกฎหมายภายในประเทศที่จะกำหนดให้ต้องจัดส่งเอกสารดังต่อไปนี้ เมื่อกระบวนการของคำขอระหว่างประเทศได้เริ่มต้นขึ้นในสำนักงานที่ไดรั้บมอบหมายแล้ว
(i) ชื่อของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย
(ii) เอกสารซึ่งมิใช่ส่วนหนึ่งของคำขอระหว่างประเทศ แต่เป็นข้อพิสูจน์คำกล่าวหาหรือคำชี้แจงที่มีอยู่ในคำขอนั้น รวมทั้งการยืนยันคำขอระหว่างประเทศโดยการลงนามของผู้ยื่นคำขอ ในกรณีที่คำขอที่ยื่นนั้นลงนามโดยผู้แทนหรือตัวแทน
(3) เพื่อประโยชน์แก่รัฐที่ได้รับมอบหมาย ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอไม่มีคุณสมบัติที่จะยื่นคำขอในประเทศตามกฎหมายภายในของรัฐนั้นเพราะมิได้เป็นผู้ประดิษฐ์ สำนักงานที่ได้รับมอบหมายอาจปฏิเสธไม่รับคำขอระหว่างประเทศนั้นก็ได้
(4) ในกรณีที่กฎหมายภายในประเทศมีข้อกำหนดที่เกี่ยวกับรูปแบบหรือเนื้อหาของคำขอในประเทศที่ผู้ยื่นคำขอเห็นว่า เอื้อประโยชน์ให้มากกว่าข้อกำหนดเกี่ยวกับคำขอระหว่างประเทศตามสนธิสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับ สำนักงานในประเทศ ศาล และองค์กรอื่นใดที่มีอำนาจหน้าที่ของประเทศนั้น หรือที่กระทำการแทนประเทศนั้นอาจใช้ข้อกำหนดแห่งกฎหมายภายในข้างต้นนั้นกับคำขอระหว่างประเทศแทนข้อกำหนดตามสนธิสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับก็ได้เว้นแต่ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอยืนยันที่จะให้บังคับใช้ข้อกำหนดตามสนธิสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับแก่
คำขอระหว่างประเทศของตน
(5) สนธิสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับมิได้มีความมุ่งหมายให้มีการตีความในทางที่จะจำกัดเสรีภาพของรัฐภาคีแต่ละรัฐในการบัญญัติเงื่อนไขสำคัญของสิ่งที่อาจขอรับสิทธิบัตรได้ตามความประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทบัญญัติใดๆ ในสนธิสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับที่เกี่ยวกับคำนิยามของงานที่ปรากฏอยู่แล้วมีไว้เพื่อประโยชน์แก่กระบวนการระหว่างประเทศเท่านั้น ดังนั้น ในการพิจารณาว่าการประดิษฐ์ตามคำขอระหว่างประเทศอาจขอรับสิทธิบัตรได้หรือไม่ รัฐภาคีสามารถนำหลักเกณฑ์ของกฎหมายภายในที่เกี่ยวกับงานที่ปรากฏอยู่แล้วและเงื่อนไขอื่นๆ ของสิ่งที่อาจขอรับสิทธิบัตรได้ ซึ่งมิใช่ข้อกำหนดเกี่ยวกับรูปแบบและเนื้อหาของคำขอมาใช้บังคับได้โดยเสรี
(6) กฎหมายภายในประเทศอาจกำหนดให้ผู้ยื่นคำขอจัดส่งหลักฐานในประเด็นเรื่องเงื่อนไขสำคัญของสิ่งที่อาจขอรับสิทธิบัตรได้ตามที่กำหนดในกฎหมายนั้น
(7) สำนักงานรับคำขอใดๆ หรือสำนักงานที่ได้รับมอบหมายที่ได้เริ่มกระบวนพิจารณาคำขอระหว่างประเทศแล้ว อาจนำกฎหมายภายในประเทศมาใช้บังคับได้เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับข้อกำหนดให้ผู้ยื่นคำขอมีตัวแทนที่มีสิทธิกระทำการแทนผู้ยื่นคำขอต่อสำนักงานดังกล่าว และ/หรือข้อกำหนดให้ผู้ยื่นคำขอต้องมีที่อยู่ในรัฐที่ได้รับมอบหมายเพื่อประโยชน์ในการได้รับการแจ้งต่างๆ
(8) สนธิสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับมิไดมี้ความมุ่งหมายให้มีการตีความในทางที่จะจำกัดเสรีภาพของรัฐภาคี ในการบังคับใช้มาตรการที่เห็นว่าจำเป็นเพื่อรักษาความมั่นคงภายในประเทศ
หรือจำกัดสิทธิของผู้มีภูมิลำเนาหรือสัญชาติของรัฐนั้นในการยื่นคำขอระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปของรัฐนั้น
ข้อ 28
การแก้ไขเพิ่มเติมข้อถือสิทธิ รายละเอียดการประดิษฐ์ และรูปเขียน
ต่อสำนักงานที่ได้รับมอบหมาย
(1) ผู้ยื่นคำขอจะต้องมีโอกาสที่จะแก้ไขเพิ่มเติมข้อถือสิทธิ รายละเอียดการประดิษฐ์
และรูปเขียนต่อสำนักงานที่ได้รับมอบหมายแต่ละแห่ง ภายในกรอบเวลาที่กำหนด ห้ามมิให้สำนักงานที่ได้รับมอบหมายรับจดทะเบียนสิทธิบัตร หรือปฏิเสธการรับจดทะเบียนสิทธิบัตรก่อนสิ้นสุดกรอบเวลาดังกล่าว เว้นแต่ได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากผู้ยื่นคำขอ
(2) การแก้ไขเพิ่มเติมจะต้องไม่เกินไปกว่าที่ได้เปิดเผยไว้ในคำขอระหว่างประเทศที่ได้ยื่นไว้ เว้นแต่กฎหมายภายในของรัฐที่ได้รับมอบหมายจะยินยอมให้แก้ไขเพิ่มเติมเกินไปกว่าที่ได้เปิดเผยดังกล่าวได้
(3) การแก้ไขเพิ่มเติมต้องเป็นไปตามกฎหมายภายในของรัฐที่ได้รับมอบหมายในทุกประเด็นที่มิได้กำหนดไว้ในสนธิสัญญาฉบับนี้และข้อบังคับ
(4) ในกรณีที่สำนักงานที่ได้รับมอบหมายกำหนดให้ต้องมีคำแปลของคำขอระหว่างประเทศ การแก้ไขเพิ่มเติมจะต้องทำเป็นภาษาเดียวกับคำแปลนั้นด้วย
ข้อ 29
ผลของการประกาศโฆษณาระหว่างประเทศ
(1) ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิใดๆ ของผู้ยื่นคำขอในรัฐที่ได้รับมอบหมายการประกาศโฆษณาระหว่างประเทศของคำขอระหว่างประเทศ ให้มีผลในรัฐที่ได้รับมอบหมายเช่นเดียวกับที่บัญญัติไว้ในกฎหมายภายในของรัฐที่ได้รับมอบหมายสำหรับการประกาศโฆษณาภายในประเทศที่ต้องกระทำแก่คำขอในประเทศที่ยังมิได้รับการตรวจสอบ ทั้งนี้ ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติของวรรค (2) ถึงวรรค (4)
(2) ถ้าหากภาษาที่ใช้ในการประกาศโฆษณาระหว่างประเทศแตกต่างจากภาษาที่ใช้ในการประกาศโฆษณาตามกฎหมายภายในของรัฐที่ได้รับมอบหมาย กฎหมายภายในประเทศดังกล่าวอาจกำหนดให้ผลตามวรรค (1) ใช้บังคับได้นับตั้งแต่
(i) เมื่อมีการประกาศโฆษณาคำแปลเป็นภาษาที่ใช้ในการประกาศโฆษณาในรัฐนั้นตามที่บัญญัติในกฎหมายภายในประเทศ หรือ
(ii) เมื่อสาธารณชนสามารถเข้าถึงคำแปลที่เป็นภาษาที่ใช้ประกาศโฆษณาในรัฐนั้นโดยเปิดให้ประชาชนเข้าตรวจสอบได้ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายภายในประเทศ หรือ
(iii) เมื่อผู้ยื่นคำขอได้จัดส่งคำแปลเป็นภาษาที่ใช้ประกาศโฆษณาในรัฐนั้น ไปยังผู้ที่ใช้การประดิษฐ์โดยไม่ได้รับอนุญาตในปัจจุบัน หรือน่าจะเป็นผู้ใช้การประดิษฐ์ตามขอถือสิทธิในคำขอระหว่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตในอนาคต หรือ
(iv) เมื่อการกระทำที่อธิบายไว้ใน (i) และ (iii) หรือการกระทำตามที่อธิบายไว้ใน (ii)
และ (iii) ได้เกิดขึ้นแล้ว
(3) ในกรณีที่ได้มีการประกาศโฆษณาระหว่างประเทศตามคำร้องขอของผู้ยื่นคำขอก่อนวันสิ้นสุดระยะเวลา 18 เดือนนับแต่วันยื่นคำขอครั้งแรก กฎหมายภายในของรัฐที่ได้รับมอบหมายใดๆ อาจกำหนดให้ผลตามที่กำหนดในวรรค (1) จะใช้บังคับได้ก็ต่อเมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 18
เดือนนับแต่วันยื่นคำขอครั้งแรกเท่านั้น
(4) กฎหมายภายในของรัฐที่ได้รับมอบหมายใดๆ อาจกำหนดให้ผลตามที่บัญญัติในวรรค (1) ใช้บังคับได้นับจากวันที่สำนักงานในประเทศของรัฐนั้น หรือที่กระทำการแทนรัฐนั้นได้รับสำเนาคำขอระหว่างประเทศตามที่ประกาศโฆษณาตามข้อ 21 แล้วเท่านั้น ให้สำนักงานดังกล่าวประกาศวันที่ได้รับสำเนาคำขอนั้นในหนังสือประกาศโฆษณาของสำนักงานนั้นโดยเร็วที่สุด
Next Page
[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] |