เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2559 มีผลใช้บังคับแล้ว โดยพระราชบัญญัตินี้ได้กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้กระทำการนำหีบห่อหรือบรรจุภัณฑ์ที่แสดงเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้มาใช้บรรจุสินค้าของตนเองหรือบุคคลอื่น เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น
เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นในสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภค เช่น สุรา น้ำมัน ยาสระผม สบู่ เป็นต้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายในทางเศรษฐกิจแก่เจ้าของสินค้า หากยังสร้างความไม่ปลอดภัยในการใช้สินค้าแก่ผู้บริโภคอีกด้วย แต่กฎหมายเดิมไม่ได้มีการกำหนดโทษกรณีผู้นำเอาสินค้าประเภทเดียวกันที่เป็นของปลอมมาบรรจุลงในภาชนะ หีบห่อ หรือบรรจุภัณฑ์ซึ่งมีเครื่องหมายการค้าจริงแล้วนำไปจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค จึงนำกฎหมายอาญามาตรา 272 และมาตรา 275 ซึ่งมีโทษสถานเบา คือ ปรับไม่เกินสองพันบาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี มาปรับใช้ในการลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดเหล่านี้เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่3) พ.ศ.2559 จึงได้มีการกำหนดบทลงโทษสำหรับการนำหีบห่อหรือภาชนะ ที่แสดงเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วมาใช้สำหรับสินค้าของตนเองหรือของบุคคลอื่น เพื่อให้ผู้บริโภคหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้า หรือเครื่องหมายร่วม หรือเชื่อว่าเป็นค้าที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองนั้น ซึ่งผู้กระทำผิดจะมีโทษปรับสี่แสนบาท จำคุก 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากสินค้าปลอมเหล่านี้
