เที่ยวทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติ “ห้ามใช้ครีมกันแดด”

by admin on สิงหาคม 24, 2021

ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเลเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการนำและใช้ครีมกันแดดที่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการัง เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ

จากข้อมูลทางวิชาการพบว่าสารเคมีหลายชนิดที่พบในครีมกันแดด มีส่วนทำให้ปะการังเสื่อมโทรมลง เนื่องจากสารเคมีเหล่านั้นทำลายตัวอ่อนปะการัง ขัดขวางระบบสืบพันธุ์ และทำให้ปะการังฟอกขาว

กรมอุทยานฯ พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลทรัพยากร และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อปะการังและระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 จึงออกประกาศดังนี้

1.ห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ Oxybenzone, Octinoxate,4-Methylbenzylid Camphor และ Butylparabenหากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท 2.ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมและสมควรได้รับการปกป้องเช่นกัน การสัมผัสกับแสงแดดจะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังในมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางเคมีหลักต่อแนวปะการังมาจาก Oxybenzone แต่ยังมีรายงานว่า Oxybenzone ก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้จากการสัมผัสและการสัมผัสด้วยแสง ซึ่งใช้เป็นสารก่อกวนต่อมไร้ท่อที่เป็นไปได้และเชื่อมโยงกับโรคของ Hirschsprung ด้านสิ่งแวดล้อม oxybenzone แสดงให้เห็นว่าก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่เป็นพิษที่หลากหลายในปะการังและปลาตั้งแต่การฟอกสีในแนวปะการังจนถึงการตาย

เหตุใดระบบกฎหมายของเราจึงปกป้องแนวปะการัง แต่ไม่ปกป้องมนุษย์ที่มีความเสี่ยงจาก Oxybenzone ด้วย? เพราะจากสถิติมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งผิวหนังต่อปีเยอะมาก และครีมกันแดดมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ผลกระทบจากประกาศที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมแต่ไม่คุ้มครองมนุษย์นี้ ควรได้รับคำปรึกษากฎหมายจากทนายความคดีละเมิด หากได้รับผลกระทบหรือความเสียหายจากกาห้ามใช้ครีมกันแดดของประกาศนี้

Photo by LnGuru –

Leave a Comment

Previous post:

Next post: