ประเทศไทยวางแผนที่จะล้างระบบกฎดิจิทัลเพื่อมอบอำนาจให้กับธนาคารแห่งประเทศไทยและควบคุมแพลตฟอร์มที่เสนอ cryptocurrencies และโทเค็นอื่น ๆ ให้เข้มงวดขึ้น หลังจากที่ตลาดล่วงลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ทำให้นักลงทุนรายย่อยขาดทุน
การแก้ไขกฎระเบียบตามแผนจะให้ “ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง” นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการให้สัมภาษณ์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ซึ่งปัจจุบันมีอำนาจหน้าที่เพียงฝ่ายเดียวในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมภายใต้กฎเกณฑ์ที่ผ่านในปี 2018 ได้รับการขอให้เป็นผู้นำในล้างระบบ
การปรับกฎให้รัดกุมเกิดขึ้นหลังจากทางการไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ดำเนินการในทันทีเพื่อปกป้องนักลงทุนที่ Zipmex (Thailand) Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ที่ได้รับใบอนุญาตซึ่งระงับการถอนเหรียญชั่วขณะหนึ่ง ในขณะที่แพลตฟอร์มดังกล่าวได้ยกเลิกการระงับการทำธุรกรรมส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่ได้ยื่นขอพักชำระหนี้ในสิงคโปร์เพื่อป้องกันเจ้าหนี้จากการถูกฟ้องร้องและเพื่อซื้อเวลาสำหรับการระดมทุน
หนึ่งในความเสี่ยงหลักสำหรับนักลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลคือปัญหาของการแลกเปลี่ยน crypto ที่เรียกใช้ “exit scams” ซึ่งอาจถือเป็นการฉ้อโกงทางแพ่งหรือทางอาญา
“ในตอนนี้ ธนาคารแห่งประเทศไม่มีที่ว่างให้เข้าสู่กรอบการกำกับดูแล ยกเว้นการแจ้งว่า cryptos ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายในการชำระเงินค่าสินค้าและบริการ” Arkhom กล่าวเมื่อวันจันทร์ “ดังนั้นกรอบงานจึงไม่ชัดเจนพอที่จะควบคุมอุตสาหกรรม”
บริษัทแลกเปลี่ยน crypto ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย Bitkub Online และผู้บริหารระดับสูงถูกปรับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ในเดือนมิถุนายนเนื่องจากสร้าง “ปริมาณการซื้อขายเทียม” บนแพลตฟอร์ม บริษัทและเจ้าหน้าที่ 5 คนถูกปรับฐานละเมิดหลักเกณฑ์ในการลงรายการเหรียญดิจิทัลของบริษัท
Credit photo by Ivan Radic