ก่อนเกิดโรคระบาดประเทศอยู่ในระดับวิกฤตก่อนแล้ว โดยการศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่า “สาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้ชายในช่วงอายุ 20-44 ปีและผู้หญิงในช่วงอายุ จาก 15 ถึง 34
เพื่อรับมือกับวิกฤตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดการเว้นระยะห่างทางสังคมของโรคระบาด COVID-19 มากขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้ถูกแต่งตั้งให้เป็น “รัฐมนตรีแห่งความซึมเศร้า” เป็นตำแหน่งคณะรัฐมนตรีซึ่งมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาความโดดเดี่ยวทางสังคมในหมู่ประชาชน
ตัวเลขล่าสุดที่อ้างถึงในรายงานของสื่อญี่ปุ่นระบุว่าผู้หญิง 879 คนฆ่าตัวตายในประเทศในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันจากปี 2562 เจ้าหน้าที่ระบุว่าการระบาดของโรคและหลายครั้งที่ได้ที่มี มาตรการกีดกันทางสังคมดูเหมือนจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้หญิง
ตามตัวเลขเบื้องต้นที่เปิดเผยโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 20,919 คนฆ่าตัวตายในปี 2563 เพิ่มขึ้น 750 คนจากปีก่อนและนับเป็นการเพิ่มขึ้นปีแรกในรอบ 11 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการฆ่าตัวตายของผู้หญิงและคนหนุ่มสาว
การกับปัญหาพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการฆ่าตัวตายและอัตราการเกิดน้อย ญี่ปุ่นถูกเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่ได้เห็นอุตสาหกรรมที่ไฮเทคทั้งหมดและควรเกิดแนวทางแก้ไขขึ้นรวมไปถึงหุ่นยนต์ “ซึมเศร้า” ที่ให้ “มิตรภาพ” บนระบบ AI และกระทั่งหุ่นยนต์ทางเพศ
ในช่วงปีที่ผ่านมามีคนไทยและชาวต่างชาติในประเทศไทยติดอยู่ในบ้านไม่สามารถประกอบกิจการได้อย่างปกติ มีหลายคนโดนไล่ออกจากงานทำให้เกิดคดีแรงงานเพิ่มมากขึ้น
